สิวผดเกิดจาก อะไร? มันผุดมาจากไหน รักษายังไงดี!?

สิวผด คืออะไร?

         สิวผดเป็นเนื้องอกภายในต่อมเหงื่อ (Syringoma) ลักษณะของสิวประเภทนี้จะขึ้นเป็นตุ่มน้ำเม็ดเล็กๆ คล้ายกับผด โดยมักขึ้นบนผิวหน้าบริเวณหน้าผาก ไรผม จมูกหรือคาง ดังนั้นสิวผดเกิดจาก การแพ้ ระคายเคือง ไม่ถือว่าเป็นทั้งสิวอุดตันและสิวอักเสบ เพราะสิวอุดตันและสิวอักเสบ เกิดจากไขมันในต่อมไขมันที่อุดตันและการติดเชื้อแบคทีเรียตามลำดับ

 สิวผดเกิดจาก อะไร?

อย่างที่บอกว่า “สิวผด” “สิวหิน” หรือ “สิวเทียม” (Acne Aestivale) นั้นเกิดจากต่อมเหงื่ออุดตัน เพราะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากเกินไป ซึ่งปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญอย่างหนึ่งคือแสงแดดหรือความร้อน ดังนั้นแล้วการเกิดสิวผดจึงมักเกิดบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับแสงแดดและความร้อน คือ บริเวณหน้าผาก ไรผม จมูก โหนกแก้ม หรือคาง โดยจะขึ้นเป็นตุ่มน้ำเล็กๆ ไม่มีหนอง ไม่สามารถบีบให้ออกมาเหมือนสิวอุดตันได้ ไม่ควรสัมผัสหรือเกาแรงๆ เพราะอาจทำให้เกิดสิวผดมากขึ้นกว่าเดิม บางครั้งอาจมีอาการคันร่วมด้วยจากเชื้อรา Malassezia (Pityrosporum) ชื่อ P. ovale

สิวผดอาจเกิดจากการแพ้ ไม่ว่าจะเป็น แพ้น้ำ แพ้เครื่องสำอาง แพ้โฟมล้างหน้า แพ้แชมพูหรือครีมนวด เป็นต้น อุปกรณ์แต่งหน้าสกปรก อุณหภูมิของน้ำที่ใช้ล้างหน้าอุ่นหรือร้อนเกินไป การสครับผิวหรือการขัดผิวรุนแรงและบ่อยเกินไป จนกลายเป็นการรบกวนผิวหน้าทำให้ผิวระคายเคืองตามมา หรือแม้กระทั่งการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทานอาหารจำพวกไขมันเยอะเกินไปก็กระตุ้นการเกิดสิวผดได้เช่นเดียวกัน

รักษาสิวผด ด้วยการปรับพฤติกรรมเบื้องต้น

1. หลีกเลี่ยงแสงแดดร้อนจัดเป็นเวลานาน หากจะต้องออกแดด แนะนำให้กางร่มหรือสวมหมวก
2. ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีเนื้อบางเบา ปราศจากน้ำมันและแอลกอฮอล์ (oil-free/non-alcohol) ควรมีค่า SPF และ PA ที่สูง เพื่อให้กันแดดยูวีได้ดี
3. ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ควรใช้น้ำอุ่นหรือร้อนไป จะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้
4. หลีกเลี่ยงการสครับผิวหรือขัดผิวหน้าบ่อยๆ จะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้
5. หลีกเลี่ยงการใช้มือแกะ บีบ กดสิว เพราะสิวผดไม่มีหัวและจะทำให้สิวอักเสบ บวมช้ำหนักขึ้น
6. หลังจากสระผม นวดผมเสร็จแล้วควรล้างแชมพูและครีมนวดผมออกให้สะอาด
7. ให้ผิวหน้าได้พักจากเครื่องสำอางบ้าง แต่งหน้าให้เบาลง พยายามใช้เครื่องสำอางที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ตลอดจนเครื่องสำอางที่ไม่มีส่วนประกอบจากน้ำมัน
8. ควรทำความสะอาดอุปกรณ์การแต่งหน้า โดยเฉพาะแปรงแต่งหน้าและฟองน้ำ ผึ่งให้แห้งสนิทก่อนเก็บ อย่างน้อยทุก 1-2 สัปดาห์
9. ไม่ควรปล่อยให้เส้นผมปรกหน้าผาก
10. ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ โดยเน้นทานผักผลไม้ให้มากๆ ดื่มน้ำให้เพียงพอ งดการทานอาหารมันๆ ทอดๆ และควรนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่

รักษาสิวผด ด้วยยา

1. ยาที่มีส่วนผสมจากกรดวิตามิน A (Tretinoin)
   มีประสิทธิภาพดีในการรักษาสิวผด แต่อาจทำให้ผิวหน้าไวต่อแสงแดด แสบผิวได้ ดังนั้นให้ทาบางๆ เฉพาะตอนกลางคืน และให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดในตอนกลางวัน
2. ยาที่มีส่วนผสมจาก Selenium Sulfide
   โดยนำมาทาหน้าทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก คุณสมบัติของมันจะช่วยละลายหัวสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตันหรือสิวผดก็ตาม โดยทาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
3. ยาที่มีส่วนผสมจาก Ketoconazole
   หากมีอาการคันร่วมด้วย อาจมีการติดเชื้อชื่อ ovale ร่วม การใช้ยาตัวนี้จะรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าตัวยาชนิดอื่น โดยทาวันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน
4. ยาที่มีส่วนผสมจาก Zinc PCA
   เหมาะสมสำหรับสิวผด ในกรณีที่เกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง

การรักษาสิวผดนั้นอาจไม่จำเป็นถึงขั้นต้องทานยาร่วมด้วยเสมอไป เพียงปรับพฤติกรรมบางอย่างก็สามารถรักษาสิวผดได้ หลักๆ คือ พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดซึ่งเป็นตัวการหลักอันทำให้เกิดสิวผด หลีกเลี่ยงการทำให้ผิวระคายเคือง ดูแลรักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงความเครียด นอนพักผ่อนให้เพียงพอและทานอาหารที่มีประโยชน์ หากไม่หายจริงๆ ก็สามารถไปขอรับคำปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับยาในการรักษาสิวผดร่วมด้วย เพียงเท่านี้…ก็สามารถรักษาสิวผดได้อย่างแน่นอน